ม.2 ภาคเรียนที่1/2558
บทที่3 การค้นหาข้อมูล และติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม
ความหมายและการพัฒนาการของอินเตอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการเรียน การทำงาน การติดต่อสื่อสาร และความบันเทิง เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และมีซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ใช้งานมากมาย การศึกษาความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้รู้จักและเข้าใจอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์จำนวนมากทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยโครงสร้างของระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้งานรูปแบบต่าง ๆ
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะ จึงเข้าสู่เครือข่ายได้อย่างเสรีภายใต้กฎเกณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายจากการเชื่อมต่อของเครือข่ายทั่วโลก
พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตพัฒนามาจากเครือข่ายอาร์พาเน็ต(ARPAnet) ในสังกัดกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานวิจัยทางการทหารที่มีผลมาจากสงครามเย็นระหว่างกลุ่มประเทศในค่ายคอมมิวนิสต์กับค่ายเสรีประชาธิปไตย และมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ดังลำดับต่อไปนี้พ.ศ. 2512 เครือข่ายอาร์พาเน็ตเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ถึงกันเป็นครั้งแรก พ.ศ.2515 ปรับปรุงเครือข่ายอาร์พาเน็ตให้ใช้งานได้จริงและเปลี่ยนชื่อเป็น ดาร์พา (DARPAnet) พ.ศ.2518 โอนความรับผิดชอบให้กับหน่วยงานการสื่อสารของกองทัพ พ.ศ.2526 ขยายเครือข่ายและเปิดการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่น โดยใช้เกณฑ์วิธีหรือโพรโทคอลชนิดทีซีพี/ไอพี
(TCP/IP)
พ.ศ.2532 ประเทศไทยเริ่มเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ.2546 เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างต่อเนื่องพ.ศ.2549 เกิดระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายในประเทศไทย ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์สมุดพก พ.ศ.2552 เกิดระบบ 3G ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในรูปแบบสื่อประสม
การทำงานของอินเทอร์เน็ตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเหมือนใยแมงมุมที่แผ่ออกไปกว้างไกลและมีจุดเชื่อมต่อกันได้มายมาย โดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเรียกว่า ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายจะเก็บค่าบริการไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการเชื่อมต่อว่าใช้เทคโนโลยีใด เช่น เอดีเอสแอล(ADSL) ไอเอสดีเอ็น (ISDN) แอร์การ์ด (air card) ทรีจิ(3G) หรือโมเด็มธรรมดาและมีความเร็วสูงมากน้อยเพียงไร เชื่อมต่อตลอดเวลาหรือเป็นครั้งคราว จำกัดเวลาใช้งานหรือไม่ เป็นผู้เรียกดูเรียกใช้บริการอย่างเดียว หรือเป็นผู้ให้บริการแก่คนอื่น หรือให้บริการฟรี เช่น สถาบันการศึกษาให้นักศึกษาในสังกัดใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรี เป็นต้น
เทคโนโลยีที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มีดังนี้
โมเด็ม(modem) คือ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตซึ่งมีสายสัญญาณนำส่งข้อมูลได้แต่ไม่รวดเร็วเท่ากับเทคโนโลยีอื่น ๆ
เอดีเอสแอล(ADSL) คือ เทคโนโลยีของโมเด็มซคึ่งมีสายสัญญาณนำส่งข้อมูลความเร็วสูงกว่าโมเด็มธรรมดา และสามารถพูดโทรศัพท์ขณะใช้อินเทอร์เน็ตได้
ไอเอสดีเอ็น(ISDN) คือ บริการสื่อสารโทรคมนาคมระบบดิจิทัลที่สามารถรับส่งข้อมูลทั้งในระบบภาพ เสียง และข้อมูลได้เร็วกว่าโมเด็มธรรมดา
แอร์การ์ด(aircard) คือ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายเข้ากับคอมพิวเตอร์สมุดพกหรือโน๊ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ทรีจี(3G) คือ เทคโนโลยีการสื่อสารที่ผสมผสานการนำเสนอข้อมูล โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุเทป กล้องถ่ายรูปและอินเทอร์เน็ตไว้ด้วยกัน ตลอดจนให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงสำหรับคอมพิวเตอร์สมุดพกหรือโน๊ตบุ๊ก
an>/ไอพี
(TCP/IP)
พ.ศ.2532 ประเทศไทยเริ่มเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ.2546 เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างต่อเนื่อง
พ.ศ.2549 เกิดระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายในประเทศไทย ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์สมุดพก
พ.ศ.2552 เกิดระบบ 3G ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในรูปแบบสื่อประสม
การเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตของเทคโนโลยีเอดีแอสแอล ไอเอสดีเอ็น และโมเด็ม มีขั้นตอนที่เหมือนกัน ดังนี้1. ผู้ใช้ขอเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต จากผู้ให้บริการโดยการพิมพ์ชื่อเข้าใช้ (login) และรหัสผ่าน (password) 2. โมเด็มจะทำหน้าที่หมุนหมายเลขโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการพร้อมกับลงชื่อเข้าใช้และรหัสผ่านไปด้วย 3. ข้อมูลชื่อเข้าใช้ และรหัสผ่านเดินทางผ่านทางสายโทรศัพท์ 4. ผู้ให้บริการได้รับการร้องขอเข้าใช้บริการอินเทอร์เน็ต จะทำการตรวจสอบชื่อเข้าใช้ และรหัสผ่าน ถ้าถูกต้องจะส่งข้อมูลกลับไปว่า เข้าใช้สำเร็จ 5. ผู้ใช้จะสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทันที สำหรับการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตด้วยแอร์การ์ดทำได้โดยเสียบแอร์การ์ดเข้ากับคอมพิวเตอร์สมุดพกหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่เปิดเครื่องไว้แล้ว จากนั้นคลิกปุ่มคำสั่ง Connect ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ส่วนการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบทรีจี ซึ่งเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเปิดโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นครั้งคราว ต้องเข้าไปที่รายการการเชื่อมต่อ แล้วเลือกจีพีอาร์เอส(GPRS) ติดต่อกับเครื่องแม่ข่าย เพื่อขอใช้งานจึงจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ไอเอสดีเอ็น(ISDN) คือ บริการสื่อสารโทรคมนาคมระบบดิจิทัลที่สามารถรับส่งข้อมูลทั้งในระบบภาพ เสียง และข้อมูลได้เร็วกว่าโมเด็มธรรมดา แอร์การ์ด(aircard) คือ อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายเข้ากับคอมพิวเตอร์สมุดพกหรือโน๊ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทรีจี(3G) คือ เทคโนโลยีการสื่อสารที่ผสมผสานการนำเสนอข้อมูล โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุเทป กล้องถ่ายรูปและอินเทอร์เน็ตไว้ด้วยกัน ตลอดจนให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงสำหรับคอมพิวเตอร์สมุดพกหรือโน๊ตบุ๊ก
การใช้งานอินเทอร์เน็ต
การใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีหลายรูปแบบ ซึ่งผู้ใช้ควรศึกษาวิธีการใช้ให้เข้าใจและฝึกใช้เป็นประจำจึงจะใช้ได้ถูกต้องและเกิดประโยชน์มากที่สุด ดังตัวอย่างอีเมล์ อีเมล์(e-mail) หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการส่งข้อความอย่างเดียวหรือแนบไฟล์ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียงไปกับข้อความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการส่งจดหมายหรือพัสดุทางไปรษณีย์ แต่ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากกว่า โดยมีซอฟต์แวร์เป็นบุรุษไปรษณีย์ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเส้นทางการส่งจดหมาย และการจ่าหน้าซองจดหมายหรือพัสดุเป็นการอ้างอิงที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ แทนการเขียนลงบนซองจดหมายหรือกล่องพัสดุ การส่งอีเมล์ถึงผู้รับมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ลงทะเบียนเพื่อขอใช้บริการอีเมลของเว็บไซต์ที่ให้บริการก่อน ในกรณีที่ยังไม่สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี 2. เข้าสู่ระบบของผู้ให้บริการ (login) โดยพิมพ์ชื่อเข้าใช้ (username) และรหัสผ่าน(password) 3. คลิกปุ่มคำสั่ง NEW หรือ สร้าง 4. พิมพ์ที่อยู่ของผู้รับ 5. พิมพ์หัวเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อความที่จะส่งไปให้ผู้รับ 6. พิมพ์ข้อความที่ต้องการส่ง 7. คลิกปุ่มคำสั่ง Send หรือ ส่ง เว็บไซต์ที่ให้บริการฟรีอีเมล์ ซึ่งสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น www.hotmail.com, www.gmail.com, www.yahoo.com เป็นต้น
บล็อก
บล็อก (blog) ย่อมาจากคำว่า เว็บล็อก(weblog) ซึ่งเป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่งที่ถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียนและจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้บนสุดบล็อกโดยปกติจะประกอบด้วยข้อความ ภาพ การเชื่อมโยงภายในบล็อกและเว็บไซต์อื่น และบางครั้งอาจมีสื่อต่าง ๆ เช่น เพลง วิดีโอ ร่วมด้วย บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูลสามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเขียนขึ้น และเจ้าของบล็อกสามารถโต้ตอบกลับได้ทันที บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลาย โดยเจ้าของบล็อกสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร ประกาศข่าย แสดงความคิดเห็น และเผยแพร่ผลงานได้ นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนขึ้นเฉพาะเรื่องส่วนตัวจะเรียกว่า ไดอารีออนไลน์ และบริษัทเอกชนหลายแห่งได้จัดทำบล็อกขึ้นเพื่อเสนอแนวความคิดใหม่ให้กับลูกค้าในรูปแบบข่าวสั้น และเมื่อได้รับการตอบรับจากลูกค้า จึงนำการตอบรับนี้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการต่อไป การใช้งานบล็อกในฐานะผู้อ่านและต้องการ่วมแสดงความคิดเห็น ทำได้ดังนี้ 1. เข้าไปในบล็อกที่ต้องการอ่านหรือร่วมแสดงความคิดเห็น โดยเลือกผ่านการสืบค้นด้วยโปรแกรมเรียกค้นข้อมูล 2. พิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็น 3. คลิกปุ่มคำสั่ง ส่งความคิดเห็น
เว็บไซต์ที่ให้บริการสมาชิกได้สร้างเว็บในลักษณะของเว็บบล็อกได้ฟรีที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ hi5, Facebook, Bloger, Ning, Gotoknow เป็นต้น
การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล
การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล หรือ เอฟทีพี(FTP : File Transfer Protocol) เป็นบริการของสถานีบริการโอนย้ายข้อมูล ซึ่งอาจเป็นขององค์กรใดองค์กรหนึ่งที่มีการนำข้อมูลมาเก็บไว้ ข้อมูลเหล่านี้อาจเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นเอกสาร หรือแฟ้มข้อมูลอื่นใดก็ได้ สถานีบริการนี้จะดูแลแฟ้มและให้บริการแก่ผู้เรียกใช้ ทั่งในระยะใกล้และสถานีห่างไกลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้เรียกใช้สามารถติดต่อเข้าไปเพื่อขอคัดลอกแฟ้มข้อมูลที่ต้องการมาใช้งานได้
นอกจากนี้ การโอนย้ายข้อมูล ยังสามารถนำข้อมูลของผู้ใช้ที่มีอยู่ โอนย้ายไปให้ผู้อื่น หรือนำไปไว้ในเครื่องบริการที่เชื่อมต่ออยู่บนอินเทอร์เน็ตที่อื่น ซึ่งผู้ใช้มีสิทธิ์ในการใช้ซอฟต์แวร์โอนย้ายข้อมูลที่นิยมใช้กันมีอยู่หลายชนิด เช่น WS_FTP, Cute FTP, FileZilla เป็นต้น ซึ่งในทีนี้จะขอนำเสนอวิธีการใช้งานซอฟต์แวร์ WS_FTP เพราะมีวิธีการติดตั้งไม่ยุ่งยากและใช้งานง่าย การโอนย้ายข้อมูลโดยใช้ซอฟต์แวร์ WS_FTP ที่ติดตั้งแล้ว ทำได้โดยเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้วปฎิบัติดังนี้ 1. ดับเบิลคลิกที่ปุ่มคำสั่งของซอฟต์แวร์ WS_FTP เพื่อเปิดใช้งาน 2. เลือกข้อมูลที่ต้องการโอนย้าย 3. คลิกปุ่มคำสั่ง Ü 4. แสดงการโอนย้ายสำเร็จ การสืบค้นข้อมูลโดยใช้โปรแกรมเรียกค้นข้อมูล (search engine) บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลมากมายให้สืบค้น ทั้งข่าวสาร บทความ รูปภาพ เพลง มิวสิกวิดีโอ แผนที่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สืบค้น โดยการสืบค้นข้อมูลที่ต้องการแบบประหยัดเวลานั้น ต้องทราบแหล่งที่มีข้อมูล วิธีการสืบค้นและมีโปรแกรมเรียกค้นข้อมูล เซิร์ซเอนจิน (search engine)เป็นโปรแกรมเรียกค้นข้อมูลหรือโปรแกรมช่วยสืบค้นข้อมูลที่เก็บไว้ในเว็บไซต์ต่าง ๆ บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
โปรแกรมเรียกค้นข้อมูล สามารถพบได้ทั้งเว็บไซต์ต่างประเทศและในประเทศ เช่น www.google.com, www.google.co.th,www.yahoo.com, www.lycos.com, www.sanook.com, www.siamguru.com เป็นต้น ซึ่งเว็บไซต์ที่คนไทยคุ้ยเคยกันดีก็คือ www.google.co.th นั่นเอง
การสืบค้นข้อมูลภาษาไทยโดยใช้โปรแกรมเรียกค้นข้อมูลของ www.google.co.th มีขั้นตอน ดังนี้
1. เปิดเว็บเพจกูเกิล โดยพิมพ์ www.google.co.th ลงในช่องว่าง แล้วกดปุ่ม Enter2. พิมพ์คำค้นหาหรือคำสำคัญ(keyword) ที่ต้องการสืบค้นข้อมูลลงในช่องว่าง 3. คลิกปุ่มคำสั่ง ค้นหาด้วย Google 4. คลิกเลือกเว็บไซต์ที่ต้องการสืบค้นข้อมูล แล้วจะปรากฎรายละเอียดข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นั้น ๆ หมายเหตุ
www.google.co.th เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจ Search engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีรายได้หลักจากการโฆษณาออนไลน์ อีเมล เครือข่ายออนไลน์ แผนที่ออนไลน์ ก่อตั้งโดย แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน คำว่า google มาจากจำนวนทางคณิตศาสตร์ หมายถึง เลข 1 ตามด้วย 0 อีกร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อแสดงว่าบริษัทต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล
การสนเทนาบนเครือข่ายการติดต่อสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต นอกเหนือจากการใช้อีเมลแล้ว ยังสามารถสนทนาพูดคุยกันได้ โดยใช้ซอฟต์แวร์ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันไป เช่น พิมพ์ข้อความผ่านคีย์บอร์ด การพูดคุยผ่านไมโครโฟน และการพูดคุยผ่านเว็บแคมซึ่งสามารถมองเห็นหน้าตาผู้สนทนา รวมถึงสามารถส่งไฟล์ข้อมูล ข้อความภาพและเสียงไปให้คู่สนทนาขณะพูดคุยกันได้ เป็นต้น ซอฟต์แวร์สนทนาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยม เช่น เอ็มเอสเอ็น เมสเซนเจอร์ (MSN Messenger) ไอซีคิว (ICQ) เป็นต้น ตัวอย่างการสนทนาบนเครือข่าย ด้วยซอฟต์แวร์ เอ็มเอสเอ็น เมสเซนเจอร์ (MSN Messenger) มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกปุ่มคำสั่ง start > All Programs > Windows Live > Windows Live Messenger หรือ ดับเบิลคลิกไอคอน ..... บนหน้าต่างทำงาน 2. ลงชื่อเข้าใช้และรหัสผ่าน 3. คลิกปุ่มคำสั่ง ลงชื่อเข้าใช้ 4. คลิกลงบนรายชื่อเพื่อนที่ต้องการสนทนาด้วย แล้วเลือกส่งข้อความด่วน 5. พิมพ์ข้อความสนทนาลงไปยังช่องว่างด้านล่าง แล้วกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด จะปรากฎข้อความสนทนาที่หน้าต่างด้านบน
ถ้าคู่สนทนาส่งข้อความตอบกลับมา ปุ่มคำสั่งซอฟต์แวร์จะกระพริบและมีเสียงเตือนให้อ่านข้อความ
คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต เป็นแบบแผนความประพฤติหรือความสำนึกต่อสังคมในทางที่ดีเมื่อใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขในสังคมอินเทอร์เน็ต โดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับการยอมรับทางสังคมของสังคมนั้น ๆ เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเกี่ยวข้องกับความคิด และตัดสินใจได้ว่า สิ่งไหนควรหรือไม่ควรปฏิบัติ ดีหรือไม่ดี ถูกหรือผิด ในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้1. ความเป็นส่วนตัว หมายถึง สิทธิ์ส่วนตัวของบุคคล หน่วยงาน หรือ องค์กร ที่จะคงไว้ซึ่งสารสนเทศที่มีอยู่ โดยให้เปิดเผยหรือยินยอมให้ผู้อื่นนำไปใช้ประโยชน์ต่อหรือเผยแพร่ได้หรือไม่ หากมีการนำไปใช้ จะมีการจัดการกับสิทธิ์ดังกล่าวอย่างไร ความเป็นส่วนตัวนี้มักพบเห็นได้จากผู้ให้บริการข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ให้ใช้บริการฟรี เช่น บริการฟรีอีเมล บริการพื้นที่เก็บข้อมูล บริการใช้งานโปรแกรมฟรี ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะเข้าใช้งานจำเป็นต้องกรอกให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของตนเองเสียก่อน จึงจะสามารถเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ และใช้งานได้เต็มรูปแบบ 2. ความถูกต้องแม่นยำ หมายถึง ความเป็นจริงและความน่าเชื่อถือของข้อมูลและสารสนเทศ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ควรตระหนักอยู่เสมอว่า ข้อมูลและสารสนเทศนั้น มีการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้อง และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ 3. ความเป็นเจ้าของ หมายถึง สิทธิ์โดยชอบในการแสดงความเป็นเจ้าของข้อมูลหรือสารสนเทศ ของบุคคลหรือบริษัทผู้ผลิต การนำข้อมูลหรือสารสนเทศไปเผยแพร่ ลอกเลียน หรือทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเป็นการละเมิดสิทธิ์ของความเป็นเจ้าของ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายและต้องรับโทษ 4. การเข้าถึงข้อมูล หมายถึง การปฏิบัติตนเพื่อเข้าใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศในเว็บไซต์ของบุคคลหรือบริษัทบางแห่งที่มีการกำหนดสิทธิ์ของผู้เข้าใช้เป็นระดับต่าง ๆ ซึ่งทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลที่ต้องการมาให้ได้ทั้งหมด ผู้ใช้ที่ดีไม่ควรลักลอบเข้าไปใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่พยายามก่อกวนหรือเข้าไปกระทำการอันจะส่งผลเสียหายใด ๆ รวมถึงปกป้องไม่ให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของตนเองตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น ไม่ควรบอกชื่อเข้าใช้และรหัสผ่านในอีเมลของตนเองแก่ผู้อื่น ไม่ควรบอกรหัสผ่านเอทีเอ็มของธนาคารที่เราเปิดบัญชีแก่ผู้อื่น เป็นต้น ผลกระทบของการใช้อินเทอร์เน็ตกับสังคม อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยไปแล้ว โดยเป็นแหล่งสำคัญในการให้ข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศต่างๆ ซึ่งข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศนั้นก่อให้เกิดผลกระทบทั้งในด้านบวกที่มีประโยชน์ และผลกระทบด้านลบที่สร้างความเสียหายต่อร่างกาย จิดใจและการดำรงชีวิตของผู้ใช้
มารยาท ระเบียบ และข้อบับคับในการใช้อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นบริการสาธารณะที่มีผู้ใช้จำนวนมาก จึงต้องมีมารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการใช้ ให้ผู้เข้ามาใช้บริการปฎิบัติร่วมกันเพื่อป้องกันปัญหาความขัดแย้ง การละเมิดลิขสิทธิ์ การก่อความเสียหายต่อตัวบุคคล ซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์ โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็น ได้แก่
1. การใช้อินเทอร์เน็ต ในฐานะบุคคลที่เข้าไปใช้บริการต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 ด้าน ดังนี้
1.1 ด้านการติดต่อสื่อสารบนเครือข่าย ประกอบด้วย
(1) ไม่ควรนำชื่อบัญชี และรหัสผ่าน ของผู้อื่นมาใช้ และนำข้อมูลของผู้อื่นไปกรอกแบบฟอร์มต่าง ๆ
(2) เก็บรักษารหัสผ่านของตนเองเป็นความลับ และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ ๆ
(3) ประหยัดเวลาการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยวางแผนการใช้งานไว้ล่วงหน้า
(4) เลือกถ่ายโอนข้อมูลและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ตามที่ใช้งานจริงเท่านั้น
(5) ก่อนเข้าใช้บริการต่าง ๆ ต้องศึกษา กฎ ระเบียบ ข้อกำหนด รวมทั้งธรรมเนียมปฎิบัติของแต่ละเครือข่ายที่ต้องการใช้งาน
1.2 ด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้ ประกอบด้วย
(1) ใช้ภาษาที่สุภาพในการติดต่อสื่อสารและใช้คำให้ถูกความหมาย เขียนถูกต้องตามหลักไวยกรณ์
(2) ใช้ข้อความที่สั้น กระทัดรัด เข้าใจง่าย
(3) ไม่นำความลับ หรือเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นมาเป็นหัวข้อสนทนา รวมทั้งไม่ใส่ร้ายหรือทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
(4) หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่ดูถูกเหยียดหยามศาสนา วัฒนธรรมและความเชื่อของผู้อื่น
(5) สอบถามความสมัครใจของผู้ที่ติดต่อสื่อสารด้วยก่อนที่จะส่งแฟ้มข้อมูลหรือซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ไปให้
(6) ไม่ส่งจดหมายลูกโซ่ผ่านทางไปรษณีย์อีเล็กทรอนิกส์ไปก่อความรำคาญและเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น
1.3 ด้านการใช้ข้อมูลในเครือข่าย ประกอบด้วย
(1) เลือกใช้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ มีแหล่งที่มาของผู้เผยแพร่และสถานที่ที่ติดต่อได้
(2) ต้องอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่นำมาใช้ และไม่แอบอ้างผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
(3) ไม่นำข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต
1.4 ด้านระยะเวลาในการใช้บริการ ประกอบด้วย
(1) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้คนอื่นได้ใช้งานบ้าง ในกรณีที่เป็นอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่มีจำนวนเครื่องที่เปิดให้ใช้งานน้อย
(2) ติดต่อกับเครือข่ายเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการใช้งานจริงเท่านั้น
2. การใช้อินเทอร์เน็ตในฐานะบุคคลที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูล มีดังนี้
(1) ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และข่าวสารต่าง ๆ ก่อนนำไปเผยแพร่บนเครือข่าย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริง
(2) ใช้ภาษาที่สุภาพและเป็นทางการในการเผยแพร่สิ่งต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต และ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้ใช้ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
(3) เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ ไม่นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ขัดต่อศีลธรรมและจริยธรรมอันดี รวมทั้งข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และข้อมูลที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม
(4) บีบอัดภาพหรือข้อมูลขนาดใหญ่ก่อนนำไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเพื่อประหยัดเวลาในการดึงข้อมูลของผู้ใช้
(5) ระบุแหล่งที่มา วันเดือนปีที่ทำการเผยแพร่ข้อมูล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เผยแพร่ รวมทั้งควรมีคำแนะนำ และคำอธิบายการใช้ข้อมูลที่ชัดเจน
(6) ระบุข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ให้ชัดเจนว่าเป็นโฆษณา ข่าวลือ ความจริง หรือ ความคิดเห็น
(7) ไม่เผยแพร่หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งโปรแกรมของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาตจากเจ้าของ
(8) ไม่ส่งข้อมูลข่าวสารหรือซอฟต์แวร์ที่มีไวรัสคอมพิวเตอร์ไปให้ผู้อื่นหรือเผยแพร่ในระบบอินเทอร์เน็ต |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น